เมื่อแสงทะลุผ่านหยก

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

#เมื่อแสงทะลุผ่านหยก
“นำหยกขึ้นส่องไฟดู ถ้าหยกแท้จะใสมองทะลุได้ ถ้าของปลอมจะขุ่นมองเป็นสีทึบ” เป็นคำกล่าวในหนังสือเรื่องการดูหยก วิธีใช้ดูหยกที่นิยมกันวิธีการหนึ่ง.....แต่ณิชชาจะไม่สรุปทันทีว่า ถ้าแสงทะลุผ่านหยกได้ดูใสแสดงว่าเป็นหยกแท้ เพราะมีข้อสงสัยว่า ถ้าเป็นหยกปรับปรุงคุณภาพ เนื้อแก้วใส มองทะลุผ่านได้เหมือนกัน เห็นลายเนื้อหยกได้เหมือนกัน แยกแยะแทบไม่ได้ว่าอันไหนเป็นหยกแท้หรือหยกปลอมกันแน่ ต้องส่งตรวจในห้องปฏิบัติการอย่างเดียว แต่สามารถใช้วิธีนี้ดูว่าเป็นหยกย้อมสี หยกทำจากแก้ว หยกทำจากพลาสติก โดยสังเกตดูเนื้อหยก การกระจายของสี และฟองอากาศได้ค่ะ
หยกแท้ที่ณิชชานำมาขายส่วนใหญ่ จะเป็นหยกเนื้อเทียน บางทีแสงทะลุผ่านได้มาก บางทีแสงทะลุผ่านได้น้อย ลูกปัดหยกแท้ส่วนใหญ่ แสงจะทะลุผ่านได้น้อย บางเม็ดจะมองเห็นแสงผ่านตามขอบๆของลูกปัดหยกแท้ กำไลหยกแท้ก็เช่นกัน บางอันแสงผ่านได้เยอะมองเห็นเนื้อของหยกได้อย่างชัดเจน บางอันทึบแสง บางอันแสงทะลุผ่านขอบของกำไลหยกแท้
ความโปร่งแสงของหยกจะบ่งบอกว่าเป็นหยกแท้ที่มีคุณภาพสูงหรือไม่ ถ้าเนื้อหยกมีความหนาแน่น มีความละเอียดมากจะทำให้แสงส่องผ่านเนื้อของหยกได้ดี ถ้าหยกโปร่งแสงน้อย คุณภาพของหยกก็จะลดลงมา หยกแท้ไม่ใช่มีแต่เนื้อแก้วเท่านั้นค่ะ ลักษณะของเนื้อหยกยังมีแบบอื่นๆ ดังนี้
หยกเจดไดต์ เกิดจากมวลหยกแบบเป็นเม็ดๆ ขนาดจิ๋วๆที่อัดตัวกันแน่น จึงทำให้หยกมีความโปร่งแสงมีความวาวตั้งแต่แบบแก้ว จนถึงแบบน้ำมัน ลักษณะเนื้อหยก แบ่งออกเป็น 6 อย่าง คือ
๑) เนื้อคล้ายเทียนไข คือ หยกเนื้อเทียน
๒) เนื้อแก้ว คือ เนื้อค่อนข้างใส แสงทะลุผ่านได้มาก มองเห็นเนื้อหยกได้ชัดเจน
๓) เนื้อคล้ายผ้าแพรของจีน
๔) เนื้อครั่ง ขุ่นๆ หยาบๆ
๕) เนื้อไส้ฟักทอง
๖)เนื้อมะระมัน คล้ายเนื้อผ้าอย่างดีในราชสำนักโบราณของพม่า
นอกจากนี้หยกเจดไดต์ ที่ซื้อขายกันในตลาดมีชื่อเรียกต่างกัน ตามชนิด สีและความใสของเนื้อหยก ดังนี้
๑) หยกจักรพรรดิ (Imperial Jade) เป็นหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด มีสีเขียวปานกลางถึงเขียวเข้ม กึ่งโปร่งใสจนมองทะลุไปถึงด้านหลัง
๒) หยกยูนนาน (Yunan jade) สีเขียวเข้ม กึ่งโปร่งแสงจนเกือบทึบแสง
๓) หยกลาเวนเดอร์(Lavender jade) เป็นหยกที่มีสีม่วงอ่อน เนื้อกึ่งโปร่งใสถึงโปร่งใส
๔)หยกลายมอสในหิมะ (Moss in snow jade) เป็นหยกสีขาว เนื้อโปร่งแสงถึงเกือบทึบแสง มีสีเขียวอยู่ประปรายเป็นหย่อมๆ คล้ายต้นมอสขึ้นบนหิมะ
๕) หยกกระดูกไก่ (Chicken-bone jade) เป็นหยกเนื้อทึบ สีขาวถึงสีเทาคล้ายกระดูกไก่
๖) หยกลายทองคำ (Galactic gold jade) เป็นหยกที่มีเนื้อสีดำและสีทองประปรายอยู่ในเนื้อหยก สีทองคำมาจากผลึกแร่ไพไรต์ส่วนสีดำของเนื้อหยกอาจมีมลทินเหล็กปนอยู่มาก

หยกเนฟไฟรต์ เกิดจากมวลหยกแบบแท่งๆคล้ายเข็มแบบเส้นใยสานกันแน่น จึงทำให้มีความเหนียวมากกว่าหยกเจดไดต์ แต่ทึบแสงกว่าหยกเจดไดต์

พอจะสรุปได้ว่าหยกแท้นั้น มีลักษณะของเนื้อหยกหลายแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อแก้วอย่างเดียว เมื่อแสงทะลุผ่านเนื้อหยกได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของหยก หากแสงทะลุผ่านได้มากจนมองเห็นเนื้อหยกทะลุไปถึงด้านหลังของหยกแสดงว่าเป็นหยกคุณภาพสูง แสงผ่านได้น้อยหรือทึบแสงก็จะเป็นหยกที่คุณภาพลดต่ำลงมาค่ะ

๒๖ กันยายน ๒๕๖๕
ณิชชา สุวรรณาคะ โทรศัพท์/Line ID:0619746256/085052625